The Sense of Cat

พฤติกรรมของมนุษย์เราที่ แสดงออกไปนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างยิ่งกับระบบประสาทรับความรู้สึก เช่น เรารู้สึกอร่อยในรสชาติของอาหาร เราก็จะมีพฤติกรรมของการกินที่แสดงถึงความเอร็ดอร่อย หรือถ้าจมูกเรารับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาเราอาจจะแสดงพฤติกรรมที่สะอิด สะเอีอน คลื่นไส้ได้เหมือนกัน ฯลฯ ฉะนั้นท่านจะเห็นว่า ระบบประสาทรับความรู้สึกมีผลมากต่อการกระทำของสิ่งมีชีวิต ในแมวมีพฤติกรรมหลายอย่างที่ มนุษย์เราพยายามจะเข้าใจเค้าอยู่ และกำลังค้นคว้ากันอย่างมากว่าทำไมแมวถึงเป็นเช่นนี้ แมวทำท่าอย่างนี้มันหมายถึงอะไร การศึกษาให้เข้าใจ ถึงระบบการทำงานของประสาทรับความรู้สึกของแมวนั้นจะสามารถอธิบายอะไรหลายๆ อย่างที่เรายังไม่เข้าใจแมว แมวมีประสาท รับความรู้สึก คล้ายๆ กับมนุษย์เราครับ คือ ตาเอาไว้ดู หูเอาไว้ฟัง จมูกเอาไว้ดม ลิ้นเอาไว้ชิมรส ผิวหนังรับสัมผัสหนาวร้อน แต่จะดีเท่าเราหรือไม่เรามาดูกันครับ
1. การมองเห็นของแมว ถ้าเราเคยจ้องดวงตาของแมวจะพบว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีการหดและขยายม่านตาได้ดี มาก ในขณะที่แสงจัด แสงแดดส่องใส่หน้ามัน ม่านตาจะหดจนเหลือแต่รูเข็ม แต่ในภาวะที่แมวอยู่ในที่มืดม่านตาก็จะขยายกว้างมากเป็นพิเศษ ตาแมวเวลาที่เราส่องไฟไปเจอในตอนกลางคืนจะเป็นสีสะท้อนกลับต่างจากมนุษย์เรา ครับที่ไม่มีสีของดวงตาสะท้อนกลับมาอย่างแมว
แมวมีความสามารถมองเห็นสี ครับ และ ยังมีความสามารถในการมองในมุม กว้างมากกว่ามนุษย์เรา บางทีมีสิ่งมีชีวิต อย่างหนูเดินอยู่ ด้านข้างด้านหลัง แมวก็สามารถมองเห็นในขณะที่มนุษย์เราทำไม่ได้ และตาของแมวยังมีหนังตา ที่สามที่เอาไว้ คอยปกป้องอันตราย แก่ตัวดวงตาด้วย ตาแมวที่ปกติจะมีกระจกตาที่ใส ไม่มีรอยฝ้าขุ่น หรือแผลบนกระจกตา หนังตาด้านในต้องเป็นสีชมพู ไม่แดงจัด หรือซีดจนไม่มีเลือด น้ำตา และขี้ตาต้องไม่ไหลออกมามากกว่าปกติ และขนาดของลูกตาต้องเท่ากัน ไม่ใช่ปูดข้างเรียบข้าง 


2. การได้ยินเสียงของแมว แมวจัดว่าเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสของการได้ยินที่ดีอีกชนิดหนึ่งครับ โดยเฉพาะเสียงที่มีความถี่สูง เรามาเทียบ ความสามารถในการได้ยินระหว่างคน แมว และหมา จะพบว่า หูของแมวกับหมานั้นดีพอๆ กัน แต่แมวสามารถเบียดชนะ ไปที่การได้ยินเสียงที่มีความถี่สูงกว่า หูของมนุษย์เราได้ยินอยู่ระหว่าง 20-20,000 เฮิร์ต หมา 10-35,000 เฮิร์ต แมวจะรับเสียงที่มีความถี่สูงถึง 100,000 เฮิร์ต เลยทีเดียวด้วยกลไกของการได้ยินที่เหมือนกัน คือมีหู 3 ชั้น เหมือนคน แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้แมวมีพฤติกรรมแปลกๆ ที่เราไม่เข้าใจ เช่นทำไมอยู่ดีๆ แมวเราถึงวิ่งออกไปนอกบ้าน และไปไล่ล่าหนูทั้งๆ ที่เราไม่เห็นตัว การที่แมวทำเช่นนี้ได้ ก็เพราะความสามารถ ในการได้ยินเสียงความถี่สูงของแมวนั้นเองครับ ฉะนั้นตอนพลบค่ำย่อมไม่แปลกเลยครับที่แมวเราจะมีความตื่นตัวสูงวิ่งไปวิ่งมา แล้วยืนจ้องอยู่ที่ประตูหรือหน้าต่าง เพราะช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่หนูส่งเสียงร้องออกหากินเช่นกัน หูของแมวอาจจะมีปัญหาได้นะครับ โดยเฉพาะแมวหนุ่มๆ มีรายงานว่ามักจะเกิดโรคกลุ่มอาการหัวเอียง อันเนื่องมาจากเส้นประสาท รับความรู้สึกในหู ที่ควบคุมการทรงตัวเกิดมีปัญหา หรือในแมวแก่ก็จะพบว่ามันจะหูไม่ดี เนื่องจากมีปัญหาของความเสื่อม ในการรับเสียง ของระบบประสาทในหูนั่นเองครับ 



3. การได้กลิ่นของแมว การรับความรู้สึก จากการดมกลิ่นของแมวนั้น ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตของเค้าครับ เมื่อเราดูจากสัดส่วนของสมองในส่วนที่ใช้ดมกลิ่นเปรียบเทียบกับขนาดของแมว แล้วสมองส่วนที่ถือว่าใหญ่ และมีพัฒนาการดีมาก แมวจะใช้จมูกในการล่าสัตว์ เรียกว่าตั้งแต่อยู่บนพื้นราบ บนต้นไม้หรือแม้แต่ในรูใต้พื้นดิน
นอกจาก นี้พฤติกรรมการ กินอาหารของ แมวจะมากหรือน้อย ปัจจัยเรื่องกลิ่นสำคัญมาก แมวบางตัวก่อนเป็นหวัดกินอาหาร ได้ดีมากพอเป็นหวัด มีน้ำมูกไหลออกมา ความสามารถในการกินอาหารก็จะลดลงมาด้วยเช่นกัน เพราะการที่ไม่สามารถหายใจดมกลิ่นอาหารได้ตามปกติ จะทำให้ขาดการกระตุ้น ความรู้สึกในการกิน แมวที่ป่วยเป็นไข้หวัดมีน้ำมูก จึงมีร่างกายที่ซูบผอม









เราทราบถึงเรื่องการรับ ประสาทสัมผัสของแมวไปแล้วในเรื่อง การได้ยิน มองเห็น และดมกลิ่น ถ้าท่านอ่านจะพบว่า ผมกำลังจะบอกกับทุกท่าน ให้เข้าใจว่าทำไมแมวถึงมีพฤติกรรมที่เรายังไม่เข้าใจมันอยู่ เหตุเพราะเจ้าความแตกต่าง ทางความสามารถในการรับสัมผัส จากสิ่งเร้านั้นเอง มนุษย์มีสมองส่วนที่คิด นึก จดจำใหญ่กว่าแมวมาก ทำให้เรามีสมองไว้คิดทำงานสร้างสิ่งต่างๆ ในขณะที่แมวมีสมอง ที่จะคิดจดจำได้ดีไม่เท่ามนุษย์เรา แต่มันก็มี สมองส่วนอื่นๆ มาชดเชยครับ เช่น แมวมีสมองส่วนรับกลิ่นที่ดีกว่ามนุษย์ แมวมีสมองควบคุม การทรงตัวที่ดีกว่ามนุษย์ เรียกว่า ธรรมชาติสร้างมาดีมากครับ มีการชดเชยโน่น ชดเชยนี้ ทำให้เผ่าพันธุ์สัตว์ สามารถอยู่ได้อย่างดีในโลกใบนี้ วันนี้เราคุยกันต่อเรื่อง การรับความรู้สึกของแมว 

4. การรับรสชาติอาหาร อวัยวะที่เราทราบกันดีครับ ว่าทำหน้าที่รับความรู้สึกอันนี้ คือ ลิ้นลิ้นนอกจากจะช่วยทำหน้าที่ เวลาเราเคี้ยวกิน อาหารแล้ว ความรู้สึกที่เราอร่อยไม่อร่อยก็อยู่ที่ลิ้นนี้ด้วย เพราะบนลิ้นจะมีตุ่มรับรสครับ เจ้าตุ่มที่ว่านี้จะมีบทบาทมากกับพฤติกรรมการกิน ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนครับว่า แมวมีตุ่มรับรสแบบไหน แมวมีตุ่มรับรสบนลิ้นบริเวณโคนลิ้น และขอบของลิ้นทั้งสองข้าง ส่วนตรงกลางลิ้นนั้น มีตุ่มขึ้น เป็นลักษณะตะขอเล็กๆ มากมายแต่ตุ่มเหล่านี้ มิได้ทำหน้าที่รับรสชาติแต่กลับ ทำหน้าที่เหมือนกับขนแปรง เวลาแมวใช้ลิ้นเลียเนื้อตัว เจ้าตุ่มที่อยู่ตรงกลางลิ้นเหล่านี้จะช่วยทำความสะอาดไปด้วย แมวสามารถรับรสชาติ เปรี้ยว เค็ม หวาน และขม เหมือนกับมนุษย์เรา แต่แมวชอบรสชาติออกมาทางด้านรสเค็ม ซึ่งจะต่างจากหมาที่ชอบรสชาติอาหารที่มาทางหวาน นอกจากนี้อย่างที่บอกไปครับ การรับรสชาติอาหาร โดยการใช้ลิ้นสัมผัสยังมีความเกี่ยวพันกับการใช้จมูกดมกลิ่นของอาหารด้วย แมวจะกินอาหารได้ดีต้องมีจมูก ที่ปกติและมีลิ้นที่ดี ในการรับรสชาติ แมวถึงกินอาหารได้ โดยปกติแมวจะเป็นสัตว์ที่กินทั้งวันครับ ถ้าท่านเลี้ยงแมวแล้วให้อาหารเม็ดไว้ในจานจะพบอย่างชัดเจนครับว่า แมวจะกินอาหารทั้งวัน กินบ่อยด้วย ซึ่งจะต่างกับความเชื่อของคนไทยเราที่มักจะคิดว่าแมวกินอาหารน้อยกินข้าวแค่ แมวดม แหมพอพูด ถึงการดมคราวที่แล้ว หลังจากที่เขียนไปมีคนโทรศัพท์มาคุยกับผมว่าแมวของเค้ามีจมูกที่ไวมาก สมัยก่อนอยู่บ้านนอก บ้านอยู่ติดสะพานปลา เจ้าของจะไปซื้อปลาใหม่มาทำสุกแล้วให้แมวกินปรากฏว่ามันกินเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเค้ากับแมวก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เจ้าของก็ไปซื้อปลา ที่ตลาดมาทำให้แมวกินปรากฏว่าแมวมันไม่ยอมกินเป็นเพราะปลาในกรุงเทพไม่สะอาด หรือไม่สดเท่าใช่หรือไม่? จมูกแมวนั้นจะมีความไวมากๆ ต่อสารประกอบพวกไนโตรเจนครับ ในอาหารกระป๋อง หรืออาหารไม่สดจะ  มีปฏิกิริยาทางชีวภาพ ที่ทำให้เกิดการบูดหืนขึ้น และทำให้ ปริมาณก๊าซไนโตรเจนมากขึ้น การที่แมวปฏิเสธอาหารพอดมแล้ววิ่งหนี น่าจะมาจากอาหารไม่ดีมีการบูด หรืออาหารปนเปื้อนก๊าซดังกล่าวครับ เห็นไหมครับว่าแมวนี้ช่างไวต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ 

5. การรับความรู้สึกของแมวจากการสัมผัส แมวจะใช้ จมูก ฝ่าเท้า หนวด เพื่อตรวจสอบวัตถุต่างๆ โดยการสัมผัส เช่น การใช้จมูกตรวจระดับ ความร้อนของอาหาร ถ้าเราสังเกตจะพบว่าแมวไม่เคยถูกอาหารร้อนๆ ลวกปากเลยซึ่งต่างจากมนุษย์เรามักจะถูกอาหารร้อนลวกปากพองได้เสมอ แมวจะใช้จมูกครับเป็นตัววัดระดับความร้อน พฤติกรรมที่เรามักจะเห็นเวลาที่แมวจะเริ่มกินอาหาร คือ มันจะก้มดมอาหารก่อน จะดมอย่างชิดมาก เพื่อผิวหนังตรงจมูกจะได้รับความรู้สึกจากของร้อนๆ นี้ ถ้ามันร้อนมากๆ รับรองครับว่า แมวมันจะนั่งเฉยไม่กินอาหารแน่ๆ นอกจากนี้ฝ่าเท้าและหนวดของแมวยังใช้ตรวจสอบการเคลื่อนไหว การสั่นของสิ่งต่างๆ ที่สำคัญความรู้สึกว่าเหยื่อ ที่มันล่าอยู่ตาย หรือ ไม่ก็ใช้จากเจ้าฝ่าเท้าและหนวดนี่ล่ะครับ 



จะเห็นครับว่า แมวมันก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกับมนุษย์ เราอาจจะด้อยกว่าในการรับความรู้สึกบางอย่าง และอาจจะดีกว่า ในการรับความรู้สึก บางอย่างเช่นกัน จุดประสงค์ของการเรียนรู้ ระบบประสาทรับสัมผัสของแมวเพื่อ ทำให้เราเข้าใจแมวมากขึ้นอย่าลืมครับ

ความคิดเห็น