การให้วัคซีนแมว


การให้วัคซีนกับสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะลดโอกาสที่จะเกิดโรคติดต่อ โดยที่วัคซีนจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้นกันโรคแก่สัตว์ สารที่อยู่ในวัคซีนที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้นกัน เรียกว่า สารก่อภูมิต้านทาน (antigen) ดังนั้นเมื่อนำลูกสุนัขและลูกแมวมาเลี้ยง จึงต้องรีบปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อจัดทำโปรแกรมการให้วัคซีนให้ครบตามที่แนะนำ

การ ให้วัคซีนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้ดีหรือไม่อยู่ที่การตอบ สนองของสัตว์เลี้ยงต่อวัคซีนที่ให้ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยได้แก่ สุขภาพสัตว์ อายุ ชนิดของวัคซีน วิธีการให้วัคซีน และการได้รับเชื้อโรคก่อนการทำวัคซีนหรือไม่

วัคซีนที่ดีจำเป็นต้องปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และไม่มีฤทธิ์ไม่พึงประสงค์


ชนิดของวัคซีน

วัคซีนที่ใช้กับสัตว์เลี้ยงแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ วัคซีนเชื้อตายและวัคซีนเชื้อเป็น

วัคซีน เชื้อตายเป็นวัคซีนที่เกิดจากการทำลายเชื้อจุลชีพ ทั้งจากการใช้ความร้อนและสารเคมี แต่ไม่ทำให้ส่วนที่เป็นสารก่อภูมิต้านทานเสียหาย ยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้นกันได้ ได้แก่ วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า และวัคซีนโรคเลปโตสไปโรซีส

วัคซีนเชื้อเป็น นั้นเป็นวัคซีนที่เกิดขึ้นจากการทำให้เชื้อจุลชีพลดความรุนแรงลง เมื่อให้เข้าสู่ร่างการจึงกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้นกันแทนที่จะทำให้เกิดโรค ได้แก่ วัคซีนโรคไข้หัดสุนัข วัคซีนโรคลำไส้อักเสบติดต่อจากพาร์โวไวรัส และวัคซีนโรคระบบทางเดินหายใจในแมว


โรคติดต่อที่ต้องทำวัคซีน

โรค ติดต่อที่เกิดขึ้นกับสุนัขจำเป็นต้องทำวัคซีนป้องกันไว้ ได้แก่ โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัดสุนัข โรคตับอักเสบติดต่อ โรคเลปโตสไปโรซีส(โรคฉี่หนู) โรคลำไส้อักเสบติดต่อจากพาร์โวไวรัส โรคลำไส้อักสบติดต่อจากโคโรน่าไวรัส และโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ

ส่วน โรคติดต่อที่เกิดขึ้นกับแมวที่จำเป็นต้องทำวัคซีนป้องกันไว้ ได้แก่ โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัดแมว โรคระบบทางเดินหายใจ โรคช่องปากและลิ้นอักเสบ โรคลิวคีเมีย และโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ


ข้อปฏิบัติในการให้วัคซีน

การ ให้วัคซีนแก่สัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสุนัขและลูกแมว) ควรยกหน้าที่ให้กับสัตวแพทย์ ไม่ควรฉีดวัคซีนเอง เพราะอาจเกิดการผิดพลาดในการฉีด (เช่น ฉีดวัคซีนขณะมีไข้) และเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ เมื่อต้องฉีดวัคซีนต้องปฏิบัติดังนี้

1. เริ่มให้วัคซีนกับลูกสุนัขตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์ และลูกแมวอายุตั้งแต่ 7 สัปดาห์ และให้ต่อเนื่องและให้ซ้ำตามโปรแกรมที่แนะนำโดยสัตวแพทย์ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอในการป้องกันโรค จากนั้นในปีละครั้ง
2. ห้ามให้วัคซีนกับลูกสุนัขและลูกแมวที่เพิ่งได้รับมาใหม่ ต้องให้ปรับตัวได้กับสิ่งแวดล้อมใหม่ก่อน (เช่น อาหารและที่อยู่อาศัย)
3. ให้วัคซีนกับสัตว์เลี้ยงที่แข็งแรงและไม่ป่วยเป็นไข้
4. ให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรงในขณะทำวัคซีน เช่น ถ่ายพยาธิ
5. ถ้าเกิดปัญหาการแพ้วัคซีน เช่น มีไข้สูง ตัวสั่น และน้ำลายไหล ต้องนำมาพบสัตวแพทย์ทันที
6. งดอาบน้ำ 7 วันหลังทำวัคซีน

 ปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์จากการให้วัคซีน

เมื่อ ให้วัคซีนแก่สัตว์เลี้ยงแล้วอาจเกิดอาการพิษหรือฤทธิ์ไม่พึงประสงค์ ต้องรีบแจ้งกับสัตวแพทย์ทันที ฤทธิ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจพบได้เมื่อให้วัคซีน ได้แก่

1. เกิดโรคจากเชื้อรุนแรงที่ยังหลงเหลืออยู่
2. แพ้วัคซีนแบบเฉียบพลัน เช่น อาเจียน น้ำลายไหล หายใจขัด และกล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
3. เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม
4. มีไข้ ซึม และไม่กินอาหาร
5. มีผลต่อลูกอ่อนทำให้พิการ และแท้งลูกได้
6. เป็นแผลหรือบวมบริเวณที่ฉีด

ที่มาของข้อมูล

โรงพยาบาลสัตว์ปัฐวิกรณ์ โดย รศ.น.สพ.ดร. กมลชัย ตรงวานิชนาม

ความคิดเห็น